9ศาสตรา AU โปรดักชั่นเฮ้าส์ : ตอนที่5 : พ่อลูกแห่งเกาะนกแอ่น

 

ตอน5นี่จะเริ่มมีความเป็นตอนต่อมากขึ้น ถ้าไงอ่านตั้งแต่ตอน1-4มาก่อนจะได้อรรถรสกว่านะฮะ
ปกติตั้งใจว่าจะเขียนแบบจบในตอน ใครอ่านตอนไหนก็ได้ แต่ตอนนี้มันเริ่มไม่ได้แล้วล่ะ55555

Rate: Gen

#ทมิฬติดพันธ์ #อ๊อดกินยักษ์ #ยักษ์กินอ๊อด #9SatraProductionHouse

—————————————

บากกำลังตัดงานในห้อง ทารคานอนกินหนมรอส่งต่องานตัดบนโซฟา

มารตาก็บรีฟงานถัดไปให้พี่ชายที่นอนเอกเขนกฟัง

อยู่ๆอ๊อดก็เดินเปิดประตูเข้ามา

“พี่เทหะจ๊ะ พี่ช่วยสอนเรื่องการถ่ายให้ชั้นหน่อยได้มั้ยจ๊ะ”

 

“ห๊ะ สอนอะไร แกก็เป็นตากล้องอยู่แล้วนี่”

“ไม่จ๊ะ เมื่อวานพี่ชาดเอางานเก่าๆที่พี่เทหะเป็นคนถ่ายให้ดูแล้วชั้นประทับใจมุมมองมากๆ จนอยากให้พี่สอนให้จ๊ะ”

 

คนโดนรบเร้าจากหนุ่มใสซื่อหันไปมองแรงใส่น้องชายผิวแดงเข้มที่นั่งทำหน้าเหวออยู่อย่างกินเลือดกินเนื้อ

“มึงไปขุดงานอะไรให้ดูวะไอ้ชาด” ทารคาลุกขึ้นมาทำหน้าเข้มแยกเขี้ยวใส่น้องชาย

“อ่า ก็แค่งานโฆษณาสองสามตัว สมัยพี่เป็นคนถ่าย แล้วพอดีคอนเซ็ปมันเข้ากับงานใหม่นี่ เลยให้อ๊อดมันเอาไปดูเพื่อศึกษาไว้น่ะ”

 

บากนั่งตัดงานไปเงียบๆ ทำเป็นไม่สนใจแต่ก็ฟังอยู่ ว่าจะมีคนอาละวาดมั้ย

 

“ก็ไปสอนมันหน่อยจะเป็นไร เผื่อในอนาคตมันจะถ่ายเก่งเท่าเอ็ง”

ลุงพันธ์ได้ยินเสียงเอะอะก็เลยเดินเข้ามาดู

“ต่อให้ชมกันแบบนี้ก็ไม่มีอะไรให้หรอกนะลุง” ทารคาหรี่ตาพูดค่อนแคะกับคนสูงวัยที่เพิ่งเดินเข้ามา

 

“เดินขึ้นมายังไงล่ะลุง เดี๋ยวไม้เท้าก็ขัดขาตกบันไดหรอก”

บากไม่หันออกจากหน้าจอ แต่ก็กัดจิกคนแก่กว่าซะหน่อย

 

“งั้นให้ไอ้ทารคามันไปกับอ๊อดนะ เดี๋ยวข้าช่วยไอ้บากมันตัดเอง”

ลุงยิ้มแบบได้ใจ

 

“เฮ้ย ไม่ต้องเลยครับลุง! ลุงเป็นโปรดิวซ์ จะมานั่งตัดงานทำไมล่ะวะครับ”

บากรีบหมุนเก้าอี้หันมาต่อปากต่อคำกับคนสูงวัย เพราะถ้าอยู่กันสองคนในห้องกับลุงพันธ์คงไม่วายโดนแกล้งอะไรอีกแน่ๆ

 

“อ้าว อย่างน้อยก็มานั่งคุมคนตัดไง”

ลุงยิ้มร้าย

 

“งั้นเราไปกันเถอะจ๊ะพี่เทหะ”

อ๊อดดึงแขนทารคาออกจากห้องไป

“เฮ้ยยย เดี๋ยวๆ อะไรยังไงวะ ไอ้อ๊อดไม่ต้องดึง”

 

มารตาโบกมือให้พี่ชายพร้อมกับยกเอกสารขึ้นมานั่งดูรายละเอียดต่อ

 

“มึงจะบ๊ายบายทำไ—-“

ทารคาหันมาโวยวายก่อนจะโดนดันตัวออกไป

 

—————————————————

 

ณ ห้องเช็คงานชั้นล่าง /ควบห้องดูหนังด้วย

 

สุดท้ายหลังจากคุยเรื่องทฤษฏีของขนาดภาพไปอย่างละเอียด อ๊อดกับเทหะก็มานั่งดู*เรฟหนังกันสองคน อธิบายกันไปฉากต่อฉาก (*reference)

นั่งดูไปเรื่อยๆเทหะก็สังเกตุว่าอ๊อดเพิ่งไปไถผมด้านหลังมาซะเลี่ยนเชียว

 

“เนียนเชียวนะ” เทหะพูดทักทรงผมใหม่(?) ที่อ๊อดเพิ่งไปตัดมา ไม่พูดเปล่าเอามือลูบตรงท้ายทอยไปด้วย

 

“จับแล้วจั๊กจี้มือดี” ทารคาลูบตรงจุดผมสั้นนั้นเพลินๆประหนึ่งลูบหัวหมาขนเกรียน

ทำเอาคนโดนลูบเสียวๆจนต้องเอียงคอ

 

“ละ แล้วพี่เทหะไม่อยากลองตัดผมสั้นดูบ้างเหรอจ๊ะ เห็นไว้ยาวตลอดเลย”

 

“อืม ไม่ค่อยได้คิดถึงมันนะ… ก็แค่…ปล่อยมันไปเรื่อยๆนะ” ดูหนังตรงหน้าไปด้วย คิดวิเคราะห์ฉากกับการแพนกล้องไปด้วย ตอบน้องมันไปด้วย มือก็เลยลูบๆไปบนหลังคอไล่จนถึงกกหูอ๊อดเพลินๆอย่างลืมตัว

 

“……..”

…………

…….

………

 

มัวแต่ดูช๊อตหนังเพลิน ทารคาเห็นอ๊อดเงียบไปเลยหันไปดู เห็นอ๊อดมันหน้าแดงแปร๊ดมาจนถึงหู

อ๊อดชม้อยตาขึ้นมามองทารคาอย่างหยาดเยิ้ม

…เอ๊ะ.. บรรยากาศแบบนี้…
…ไอ้ทารคาเอ้ย…แกทำอะไรให้น้องมันเข้าใจผิดมั้ยเนี่ย…
ทารคาเกาหัวแกรก แล้วก็เพิ่งรู้สึกตัวว่ามือตัวเองอีกข้างมันลูบคอน้องเล่นอยู่

 

“พี่ทารคาจ๊ะ..ไม่รู้ว่าพี่จะพอรู้มั้ย แต่ฉันแอบชอบพี่อยู่…”

ห้องดูหนังนี่ก็ช่างเป็นใจ ปิดม่านสีส้มเข้ม พอแดดส่องเข้ามาก็เหมือนกับเป็นแสงเทียนหรือแสงยามเย็นกลายๆ ช่างดูอีโรติค ให้อารมณ์เหมือนหนังeros ของหว่องกาไวไม่มีผิด

 

“อ่า..ไม่รู้เลยครับ..”. …อยู่ๆกูพูดสุภาพกับมันทำไมวะ

 

อ๊อดเบียดตัวเข้ามาใกล้ยักษ์เขียวมรกตที่ตอนนี้นั่งนิ่งจนตัวลีบ

“แต่ก็กลัวว่าพี่จะรังเกียจ..เลยกะจะบอ—“

 

“รังเกียจอะไร! มันไม่เกี่ยวว่าเป็นผู้ชายหรอกนะผู้ชายพี่ก็โอเค เพียงแต่ว่าเราก็เพิ่งจะรู้จักกันไ—“

เขาล่ะไม่ชอบนักกับพวกแบ่งแยกเพศทำทีท่าว่ารังเกียจอย่างนั้นอย่างนี้ ได้ยินเรื่องแบบนี้ทีไรแล้วก็อารมณ์ขึ้น ไม่อยากให้น้องมันรู้สึกไม่ดีว่าเราจะรังเกียจมันแบบนั้นเลย

 

อ๊อดยืดตัวขึ้นบนโซฟาพอที่จะค้อมตัวลงมาหาคนผมแดงด้านล่าง แล้วคว้ามือทารคามาจับไว้แน่น

 

“จริงเหรอครับ”  ปกติพูดจ๊ะจ๋าเป็นประจำ แต่พอตื่นเต้นแล้วเหมือนลิ้นจะพันกันจนประสาทสั่งการไม่ได้

“เอ๊ะ”     คนตัวใหญ่กว่าทำหน้างง

 

“ที่พี่ว่ากับผู้ชายก็โอเค”  อ๊อดกุมมือทารคาไว้ สายตาเปี่ยมไปด้วยความหวังและศรัทธา

 

“เอ..อ่ะ.. ก็…ใช่…”      ทารคาเบือนหน้านิดๆแล้วกรอกตาไปด้านข้างก่อนจะยิ้มแห้งๆตอบออกไป

….รึกูกำลังทำอะไรพลาดไปวะทารค๊าาา!…

 

“ตอนแรกผมกะจะบอกเฉยๆ ไม่ได้คิดเลยครับว่าจะมีความหวังแบบนี้”

อ๊อดโค้งตัวลงมาใกล้อีก คราวนี้แทบจะทับลงมาทั้งตัว โชคดีที่โซฟาตัวที่นั่งกันอยู่ตัวใหญ่พอที่จะรับน้ำหนักคนกับยักษ์ได้พร้อมกัน

 

“งั้นจีบได้มั้ยครับ”   อ๊อดทำหน้าหื่นโดยไม่รู้ตัว พร้อมกับตาดำขลับที่เป็นประกายของความสุข

“เอ่อ มันก็…”   คนโดนทับก็ไม่รู้ว่าตัวเองเริ่มเอียงตัวโน้มลงนอนมาตั้งกะเมื่อไหร่ แล้วทำไมถึงโดนต้อนมาจนถึงจุดนี้ได้ นี่มันกำลังขออนุญาตจีบหรือกำลังขออนุญาตอะไรวะถึงต้องเข้ามาชิดจนตัวแนบกันขนาดนี้

 

แกร๊ก!

“พี่..  พี่บากตัดจะเสร็จแล้ว เดี๋—“

มารตาเงยหน้าจากเอกสาร แล้วชะงักมือหนาใหญ่ไว้ที่ลูกบิด พลันหันมามองพี่ชายตัวเองที่กำลังโดนรุกอยู่แน่ๆ สองมือของทารคากำลังดันตัวอ๊อดให้ออกห่าง ส่วนอ๊อดก็แทบจะคร่อมพี่เขาไว้ทั้งตัว

 

ทารคาทำปากขมุบขมิบไปทางมารตาเป็นสัญญาณว่าให้ช่วยหน่อย ทำอะไรซักอย่างทีซิ!

 

“ไอ้เบิ้ม ทำไมไม่เข้าไปวะ ยืนขวา—“

 

ปึ๊ง!!   มารตาหันตัวปิดประตูอย่างแรงแล้วเอาตัวขวางประตูไว้ไม่ให้วาตะเข้าไปได้

“ขอโทษครับ!!”   ยักษ์สีชาดหน้าถอดสี…บ้าเอ้ย ว่าแล้วว่าต้องกำลังคบกันอยู่ พี่ก็ปฏิเสธอยู่ได้! เอ๊ะ แต่พี่อยู่ล่างเหรอ!

       …อา…ไม่คิดเลยว่าจะต้องมารับรู้สถานะบนเตียงของพี่ตัวเองแบบนี้…

 

“อะไรของเอ็งวะไอ้เบิ้ม! ไม่เรียกพี่เอ็งไปกินข้าวเหรอ!” วาตะทุบเข้าที่ไหล่ชาดด้วยความไม่พอใจ หรืออาจจะกลัวว่าตัวเองก็จะอดกินเหมือนกัน

มารตาส่ายหน้าให้กับความรู้สึกอะไรบางอย่าง…แล้วก็จูงมือวาตะเดินลากออกห่างจากห้องไป

 

“เดี๋ยวววว ไอ้น้องใจยักษ์ อย่าเพิ่งไปยยยยย”

 

—————————————

กลับมาที่ห้องตัดต่อ

 

หลังจากที่มารตาบรีฟงานเสร็จก็ออกไปจากห้องตัด ปล่อยให้บากและลุงพันธ์อยู่ในห้อง

บากก็ตัดงานไปเงียบๆ แต่ก็แอบมีเหลือบมาระแวงหลังบ้าง

มันก็ธรรมดานะถ้าโปรดิวซ์จะมานั่งดูงานตัดบ้าง    อืม…ลูกค้าอาจจะอยากให้มาดูความคืบหน้าล่ะมั้ง…

เอากันจริงๆ ตั้งแต่รู้กจักลุงแกมา ก็รู้สึกแค่ว่า “ลุงโปรดิวซ์ที่เป็นพ่อของอ๊อด” เท่านั้น แล้วก็รู้สึกว่าทำตัวลำบากเวลาอยู่ต่อหน้าลุงแก เพราะแกชอบมาจ้องๆกันเหมือนจะจับผิด ตอนแรกก็นึกว่าจะมาดูงานที่ตัด แต่ขนาดตอนกินข้าวแกยังนั่งจ้อง ก็รู้สึกเกร็งๆอยู่บ้าง แต่ก็คิดว่าคงเป็นเพราะภาพลักษณ์ตัวเองที่ดูติดแบดบอยนิดๆด้วยล่ะน—

 

บากสะดุ้งโหยง ระหว่างกำลังคิดๆแล้วก็ตัดงานไปด้วย ลุงพันธ์ก็เดินมายืนขนาบข้างโต๊ะด้านซ้าย

 

“พักหน่อยมั้ย นี่ตัดมาสี่ห้าชั่วโมงแล้วนี่ ตาคงล้าหมดแล้ว” คนสูงวัยกว่าเดินมาทักแล้วก็เหลือบมองไปที่รอยช้ำใต้ตาของคนผิวม่วงหม่น

 

“เอ่อ ผมโอเคอยู่ครับ เดี๋ยวค่อยนอนพักทีเดียว” บากพยายามตอบแบบเลี่ยงๆ

 

“น่า ถือว่าบริการคนแก่ หิวแล้วด้วย ยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย มีอะไรกินมั่งมั้ย”

ลุงพันธ์ว่าอย่างนั้นแล้วก็หันมายิ้มเบาๆให้

 

…วันนี้ดูลุงแกเข้าหาแบบใจเย็นกว่าทุกทีแฮะ…

 

—————————

 

…สุดท้ายก็เลยพากันลงมาห้องครัวด้านล่าง (*ในเฮ้าส์จะมีครัวเล็กๆไว้ให้ทำอะไรง่ายๆกินกันเอง จะมีวัตถุดิบง่ายๆแบบไข่ไก่ ขนมปัง แฮม ไรงี้ไว้ให้ด้วย ใครอยากกินไรก็บริการตัวเองได้เลย)

 

ร่างสูงกว่าเหล่มองลุงอย่างไม่ไว้ใจ พลางดื่มโกโก้ไปด้วย

…วันนี้ดูสงบเสงี่ยมแฮะ เกิดอะไรขึ้นหว่า…

 

ลุงกินแพนเค้กที่เขาเป็นคนทำให้ไปพลางดื่มน้ำเต้าหู้ไปพลาง  พลันบากเห็นเศษขนมติดที่ปอยผมลุงตรงใกล้ๆหูเลยเดินอ้อมเค้าเตอร์มา

 

“กินยังไงเนี่ยลุง กระเด็นมาถึงนี่”

คนทักก้มลงมาหาลุงที่นั่งอยู่ แล้วเอื้อมมือมาหยิบชิ้นขนมออก ปลายนิ้วเรียวยาว เกลี่ยโดนปลายผมและใบหูของลุงช้าๆ

 

ลุงพันธ์หน้าแดงขึ้นมาทันที

“มะ..มันก็กระเด็นกันได้ล่ะน่า” ลุงเอามือขึ้นมาปิดหูข้างที่โดนแตะไป

 

บากเอาเศษขนมเล็กๆนั่นเข้าปากแบบไม่คิดอะไรมาก แล้วก็สังเกตุว่าลุงหน้าแดงขึ้น

“เป็นอะไรอีกล่ะ อยู่ๆก็ดูหน้าแดงขึ้นมา”

ทมิฬยืนกอดอกพร้อมเคี้ยวขนมตุ้ย แล้วก็ซดโกโก้เข้าไปอีกอึกใหญ่ แต่สายตาก็ไม่ได้ละไปจากลุง

 

“มีไข้รึ—”

บากทำท่าจะเอามือไปแตะหน้าผาก แต่ก็โดนลุงชิงปัดมือก่อน

“มะ ไม่ได้เป็นไข้เว้ย แค่อากาศร้อนน่า”

ลุงก้มหน้าก้มตาซัดน้ำเต้าหู้ต่อ ทำตัวงุดๆ ดูไม่มีพิษสงเท่าทุกที

คนผิวม่วงหม่นเริ่มงงกับท่าทีของลุง

 

เอ…หรือว่า…ตาลุงนี่ก็แพ้ทางเราเหมือนกันนี่หว่า ชอบมาแกล้งเราอย่างนู้นอย่างนี้บ่อยๆ

พอโดนทำเหมือนหยอกกลับบ้างดันไม่ชอบซะเองงั้นเหรอเนี่ย

ยังงี้ก็สวยเซ่…//ยิ้มชั่วร้ายแบบพรานทมิฬ

 

ลุงพันธ์ทำท่าว่าจะลุกเดินไปอีกห้อง

“อ้าวลุง ไม่กินแล้วเหรอ เหลืออีกตั้งเยอะ

“เออ เอ็งกินไปเลย” ลุงพันธ์พยายามรีบลุกขึ้นเดินทั้งๆที่สังขารไม่อำนวย

 

บากเดินจ้ำก้าวยาวๆมาจับแขนลุงที่พยุงด้วยไม้เท้าไว้

“เดี๋ยวซิลุง อยู่ๆก็หนีกันไปเลยได้ไง ” ร่างสูงกะวางแผนปั่นหัวลุงเล่นซักนิดนึง เผื่อว่าได้ผล

จะได้เอาคืนลุงเวลาแกล้งเขามั่ง ถ้าเป้าหมายจะหนีไปเร็วแบบนี้ก็ไม่ทันได้ทดลองอะไรกันพอดี

 

บากยื่นหน้ามาพูดใกล้กับหน้าลุงมากๆ จนลุงรู้สึกได้ถึงลมหายใจ ส่วนนึงก็กะแกล้งลุงให้ตกใจเล่นด้วย

 

คนตัวสูงยิ้มมุมปากแบบคนเหนือกว่า

“ไหนว่าจะช่วยกันตัดงา—”

 

ลุงพันธ์หันมาตามแรงรั้งของอีกฝ่ายพร้อมกับดึงคอเสื้อของบากลงมาและจรดริมฝีปากลงบนใบหน้าของคนตรงหน้า

นัยตาพื้นดำสีเหลืองทองเบิกขึ้นอย่างตกใจที่สุดในชีวิต จนไม่ได้ยินเสียงไม้เท้าของลุงที่เอียงหล่นไปที่พื้น  ลุงใช้ลิ้นดุนให้โดนปลายลิ้นอีกฝ่ายนิดหน่อย พอให้ตกใจ แล้วก็ถอนริมฝีปากออกจากร่างสูงที่ตอนนี้ทำหน้าเหวอประหนึ่งปลาตาย

 

“ข้าอุตส่าห์อดทนแล้วก็เดินหนีแล้วนะ! เพราะกลัวทนหมันเขี้ยวเอ็งไม่ไหว เอ็งที่ยืนหันหลังทำขนมอยู่กับเสื้อเสว็ตเตอร์คอกว้างๆนั่น ทั้งต้นคอเอ็งแล้วก็ไหปลาร้าเอ็ง ทำข้าจะหมดความอดทน!

แต่เอ็งก็เดินตามมาเอง.. แถมเอาหน้ามาซะใกล้เหมือนจะลองใจกัน”

ลุงร่ายยาวเหมือนกับระบายความรู้สึกที่มันล้นทะลัก ที่ต้องอดทนมาทั้งวันหรือตลอดหลายชั่วโมงที่นั่งอยู่ด้วยกันสองคนในห้องตัดต่อเล็กๆนั่น

 

“นี่……ลุง..แกล้งกันเล่น..หรือว่ายังง-ไง….ครับ”

ยังไม่ลืมที่จะพูดสุภาพ บากทำหน้าช๊อคๆ ตัวเซนิดๆเหมือนจะยืนไม่อยู่ หน้าสีม่วงอ่อนก็เริ่มมีสีแดงเจือๆบ้างแล้ว

 

“ไม่รู้ คิดเอาเองซิ!”

ลุงพันธ์พูดยิ้มๆ แล้วก็เดินเขยกๆไปหยิบไม้เท้าข้างที่หล่นขึ้นมา

“ตัดงานที่เหลือให้เสร็จนะ แล้วเดี๋ยวจะกลับมาตรวจ”

 

“มะ..ไม่ต้องครับ!!ผมส่งไปให้ตรวจแบบทุกทีได้!”

แล้วทมิฬก็รีบหันกลับวิ่งขึ้นห้องตัดไป พร้อมกับความWTFในหัว

 

ลุงหันมองตามจนได้ยินเสียงประตูห้องตัดปิดดังปัง

“เฮ้อ…จะน่ารักไปไหน”

ลุงหัวเราะในคอ พลันหยิบหมวกที่แขวนไว้มาใส่ แล้วก็เดินออกจากเฮ้าส์ไปเนิบๆ

 

—————————————-

 

พ่อลูกคู่นี้นี่มัน..55555555😂😂😂😂

แล้วพี่บากคนคูลตอนอยู่กับทารคาไปไหนแล้ว เหมือนพี่จะแพ้ทางคนแก่ ยอมให้เขาหยอกอยู่ได้

 

—————————————-

9ศาสตรา AU โปรดักชั่นเฮ้าส์ : ตอนที่2 วันหยุดของเฮ้าส์

AUโปรดักชั่นเฮ้าส์ตอน2

“เฮ้อออออ…” ชาดบิดขี้เกียจอยู่ตรงระเบียงห้องตัดต่อชั้นบน อากาศครึ้มๆวันนี้น่านอนเหลือเกิน
นานๆจะมีวันว่างจริงๆซักที แต่อยู่ๆก็มีเสียงคนคุยกันแว่วๆจากข้างล่างมาตัดบรรยากาศซะนี่

“พี่เทหะเอื้อมมือมาทางนี้จ๊ะ”

“เอ..ด้านหน้าตรงนี้เหรอ”

เสียงไอ้อ๊อดกับพี่นี่นา วันนี้ว่างไม่มีงานอะไร ทำไมยังมาออฟฟิศกันหว่า

“ลองขยับมาทางซ้ายนิดนึงนะจ๊ะพี่ ..อืม…อะ..ซ้ายอีกนิด…”

“แบบนี้เหรอ..”

“อา….ดีจ๊ะ…”

“พี่ต้องใส่แรงมากกว่านี้จะดีกว่านะจ๊ะ”

“กลัวออกแรงเยอะแล้วมันจะหยุดไม่ได้น่ะซิ”

 

ชาดที่นั่ง(แอบ)ฟังอยู่บนระเบียงขมวดคิ้วนิดๆ….ทำสีหน้าครุ่นคิด สลับกับเอามือถูหน้าตัวเอง
…จะว่าไป… ช่วงเข้ามาทำงานใหม่ๆ อ๊อดก็เคยบอกว่าชอบพี่ทารคามากๆๆๆๆ ชื่นชมที่พี่ทำได้แทบจะทุกอย่าง แถมจริงๆแล้วเป็นคนปากร้ายใจดีต่างกับที่เห็นภายนอก ความประทับใจมันคงเพิ่มจนกลายเป็นความหลงได้ซินะ…

พี่ทารคาก็เคยบอกว่าอ๊อดมันก็น่ารักดี ชอบมาพูดจ๊ะจ๋าใกล้ๆ รู้สึกฮีลลิ่งแบบแปลกใหม่ดี ดูพี่ก็เอ็นดูมันไม่น้อย หรือว่าทั้งสองคน…. จะกำลังแอบคบกัน!!!! //สีหน้าตกใจมีสายฟ้าฟาด

 

“อ๊ะ!! ไม่ใช่ตรงนั้นจ๊ะพี่เทหะ พี่ต้องค่อยๆอ้อมมือมาทางด้านหลังแล้วค่อยๆทำ”

“อา…โอเค… แบบนี้ดีขึ้นมั้ย”

“…ดี…ดีมากเลยพี่ อย่าเพิ่งหยุดนะ”

…ชาดเม้มปากแน่น…… แอบฟังแบบนี้จะดีหรือวะไอ้ชาด!!! ชาดทึ้งหัวตัวเอง เหงื่อตกเม็ดใหญ่

นั่นก็พี่ อีกคนก็เอ็นดูเหมือนน้องเหมือนเพื่อน แถมยังต้องทำงานด้วยกันไปอีกยาว โฮ้ยยยยยยย ทำไมกูต้องมาอยู่ตรงนี้ยยยยยยย

“ดะ..เดี๋ยวก่อนพี่เทหะ…… มันเร็วไป ขอช้าๆกว่านี้นะจ๊ะ เดี๋ยวจะตามกันไม่ทัน…”

“ได้..…ถ้าพอชินแล้วเดี๋ยวจะลองของจริงกันเลยมั้ย”

ยังไม่ทันสิ้นเสียงของคนพี่ด้านล่าง ชาดลุกพรวดขึ้นมาจนเก้าอี้กระเด็น แล้วชะโงกหัวลงมาจากชั้นสอง ตะโกนบอกสองคนด้านล่าง

“หยุดดดด!!! พวกพี่กับไอ้อ๊อดจะทำอะไรกันมันก็เรื่องของพี่! จะคบกันผมก็ไม่ว่าอะไร! แต่ช่วยไปทำกันในห้องได้มั้ยยยย!!!”

ชาดหลับหูหลับตาตะโกนไปด้วยความเลือดขึ้นหน้า พอตั้งสติลืมตาขึ้นมามอง… กล้องใหญ่ตัวใหม่ที่ออฟฟิศเพิ่งถอยมาเมื่อสามวันก่อนตั้งตระหง่านอยู่ข้างล่าง ไอ้อ๊อดยืนสตั๊นอยู่หลังviewfinderกล้อง มีพี่ทารคายืนมาร์คจุดshift focus ทำหน้าเหยเกอยู่ตรงหน้าเลนส์

((*อนึ่ง*shitf focusคือการที่ตากล้องต้องการเปลี่ยนจุดชัดของภาพไปเป็นอีกจุดหนึ่ง ซึ่งในกล้องตัวใหญ่ๆจะต้องมีผู้ช่วยกล้องอีกคนช่วยทำ และจะต้องซ้อมกันหลายครั้งเพื่อที่จังหวะในการโฟกัสจะได้สมูทเท่าที่ต้องการ, อ๊อดกับทารคาก็กำลังฝึกกันอยู่นี่แล))

 

“…มารต๊าา!!!” เสียงแหบต่ำคำรามขึ้นมาพร้อมมองน้องชายที่อยู่บนชั้นสองจนตาเขียว “จะ..จ๋า..ท่านพี่ แหะๆ” คนตัวใหญ่รีบหนีออกจากระเบียงกลับไปในห้องด้วยความกลัวพี่ด่า “มึงอยู่นั่นเลย!เดี๋ยวกูขึ้นไปหามึงเอง! จิ้นอะไรของมึงวะ!”

ผมสีแดงชาดพริ้วผ่านหน้าอ๊อดไปด้วยความเร็วพร้อมเสียงเดินตึงตังๆขึ้นบันไดไป อ๊อดทิ้งตัวนั่งลงที่พื้นข้างๆกล้อง พร้อมถอนหายใจ

“เฮ้อ…พลาดอีกและ อุตส่าห์ได้อยู่กันสองคน”

 


จบไปอีกหนึ่งเก๊ก5555 นังอ๊อดมันร้ายยยยยยย นี่ตั้งใจว่าจะเขียนสั้นๆภายในหนึ่งโพส เพราะเป็นมุกสั้นๆเท่านั้นเอง แต่มันก็งอกมาขนาดนี้ 😭

 

[รีวิว] 9 ศาสตรา

มาดูเพราะความอยากรู้ล้วนๆ ทั้งๆที่ไม่ชอบอนิเมแอคชั่นนะ

แค่เปิดฉากแรกมา……ฟ้าคคคคคคคคคคคคคคคค งานภาพแม่งงงงงงงงงงง Σ(꒪ȏ꒪)
ไม่ใช่ว่ามันดีเวอร์วังจนเรื่องอื่นๆเทียบไม่ติดนะ แต่คือ…มันเป็นอนิเมชั่นจริงๆ!! จริงๆ!! จริงๆเลย!
นี่ถือว่าเป็นอนิเมชั่นเรื่องแรกของคนไทยก็ว่าได้!!
เพราะอนิเมไทยที่ผ่านมา มันรู้สึกเหมือนเป็นงานฝึกหัดทำกราฟฟิคหรือ3Dของเด็กปี3-4อ่ะ ประเภทตัวละครยืนกระจุกกันมุมเดียว แล้วปล่อยส่วนอื่นๆและBGว่างเฉยเลย บางที่ไม่มีเงาอะไรงี้

ytd

แต่ #9ศาสตรา นี่มันมาครบ ทั้งมูฟเม้น แอคชั่น sound  //soundนี่ขอชมมากว่าเร้าอารมณ์ได้ดี! มีส่วนกับเนื้อเรื่องมากๆ แทบจะเล่าเรื่องได้เองเลย แต่ก็รู้สึกมีความเป็นไทยน้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับเนื้อเรื่อง
ไม่ได้หมายความว่าต้องไทยจ๋าระนาดเอกมาเลย แต่มันน่าจะมีความยูนีค+กิมมิคเข้ามาบ้าง แต่ส่วนที่เร้าอารมณ์คนดีทำได้ดีมาก

เรื่องเสียงพากษ์ที่เห็นมีคนบอกว่าไปดูพูเอิ้งดีกว่า แต่เราว่าทีมพากษ์ไทยก็ทำได้ดีนะ ในพวกฉากแอคชั่น,ดราม่า นี่พากษ์มีอารมณ์ดี แต่ฉากที่คุยกันเฉยๆเนิบๆอ่ะจะดูพากษ์นิ่งไปหน่อย แต่ฉากแอคชั่นกับฉากบีบอารมณ์มันเยอะกว่าไง รวมๆทั้งเรื่องเลยถือว่าพากษ์ดีแล้ว ไม่ได้แย่เลย

ถึงบทจะmainstream แต่ด้วยความที่มันเป็นอนิเมที่ไม่ได้ติดเรทอะไร เด็กอายุแค่ไหนก็ดูได้ ก็เลยรู้สึกว่าโอเคแล้วเพราะรายละเอียดอื่นๆมันมีให้ดูมากกว่าการจะอยากดูว่าบทมันดีขนาดไหน

ชอบบบบพวกบทพูดคำด่ามากกกก ฟังแล้วมันเจ็บจี๊ดได้ใจ ไอ้อัปปรีย์!!!  ฉีกสังขารมันออกมา!!! ฯลฯ อีกมากมาย จำได้แต่ว่ามีหลายคำที่มันคือแบบ เออ! ด่าแล้วมันเจ็บไปถึงทรวงมันเป็นงี้เอง คือมันไม่ค่อยมีคำพวกนี้ในหนังไทยการ์ตูนไทยเท่าไหร่แล้ว ส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้จะชอบเป็นใช้คำหยาบไปเลยมากกว่าซึ่งมันรู้สึกเฉยๆ มันสื่ออารมณ์แบบละเอียดๆไม่ได้
เลยรู้สึกดีที่เด็กๆจะได้เห็นคำสวยๆพวกนี้อีก (เวลาเขียน ตัวอักษรมันสวยนะคำพวกนี้)

เรื่องdesignนี่ขัดใจยักษ์พี่น้องมาก แต่พรานทมิฬ!! พี่ทมิฬขาาาาา พี่เท่ พี่ดราม่า พี่ซึน♥♥♥
แอบเห็นเขี้ยวเล็กก็นึกว่าเป็นยักษ์อีกเผ่ารึเปล่า แต่ทีมงานว่าไม่ใช่ แต่แบบดีไซน์พี่ทมิฬนี่แบบโดนใจอ่ะ บวกกับนิสัยที่มีความร้าวรานภายในนี่ชอบมาก //ตอนจบนี่แอบชิปกับพระเอกนิดๆ55555555
สัตว์เลี้ยงพี่ก็เท่มากกกกกก แอบมีความใจสื่อถึงใจ พอพี่ทมิฬตกฟิ้วววว  อีกนก(?)รีบบินไปเก็บพี่ทันที //รู้สึกได้ถึงความรัก♥

 

พอน้องลิงวาตะออกมานี่รู้สึกได้เลย เฮ้ยยยย งานขายมาสคอตมันต้องมา!!เรื่องนี้มันไปต่อได้อีก!!
สีสันนางกับอาวุธนี่ชอบมากๆ แอบอยากเห็นเนื้อเรื่องตอนโตเลย
maxresdefault

เสี่ยวหลาน นางสวยยยยย ออกมาฉากแรกนี่นึกว่าจะเป็นสาวหวาน แต่……55555555
ชอบนาง♥ ชอบฉากเล่นดนตรี แอบรู้สึกถึงหนังจีนที่มันต้องมีฉากที่ตัวเอกเล่นดนตรีกับศัตรูหรือพันธมิตรแล้วบอกความนัยอะไรบางอย่างที่เค้ารู้กัน2คน

bc78bde4-dbe6-11e7-b8b7-000000007adc_09

 

มันไม่ใช่อนิเมภาพสวยด้วยนะ จุดสำคัญของอนิเมสำหรับเรา คือมันต้องดำเนินเรื่องสนุก น่าติดตาม
บทอาจจะไม่ดีมาก แต่ที่สำคัญมันต้องเอาคนดูที่เป็นเด็กอยู่ ในโรงที่เราไปดูก็มีเด็กด้วย อย่างที่รู้ๆว่าถ้ามีเด็กในโรงหนัง เราจะต้องได้ยินเสียงเด็กถามแม่ถามผู้ปกครองกันตลอดเรื่อง ว่าตรงนั้นมันยังไง ใครไล่ตามมา
บลาๆๆๆ หรือบางทีก็ร้องไห้ แต่เรื่องนี้ไม่มีเลยนะ ประหนึ่งว่าไม่มีเด็กอยู่ในโรง

แีกจุดที่ชอบมากๆ คือพวกฉากดราม่าหรือฉากบิ้วหลายๆฉาก คือมันยูนีคดี เราจะไม่เห็นฉากแบบนี้ในอนิเมชาติอื่นแน่นอน คือมันจะเห็นได้จากอนิเมไทยหรือแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เราเท่านั้นอ่ะ

มันเป็นจุดยืนที่ดีมากๆที่เรามี และเราก็นำมันมาใช้ในอนิเม ซึ่งเรื่องนี้เราว่าเป็นจุดแข็งมากๆ //ไม่อยากบอกว่าอะไรบ้างเดี๋ยวจะเป็นการspoil

ดูจบนี่ติดบ่วง #ทมิฬติดอ๊อด ไปเรียบร้อย♥ ส่วนใหญ่เค้าจะ #ยักษ์กินอ๊อด กัน แต่เราดันเป็นแพน้อย #อ๊อดกินยัักษ์ มองความเมะของเทหะไม่ออกอ่ะ5555555

เอาเป็นว่าไปดูกัน!! ไปดูอนิเมชั่นเรื่องแรกของเมืองไทย!